อาคาร หรือที่พักอาศัยสมัยใหม่ เริ่มนิยมมาติดตั้งหลังคาแบบโปร่งแสงมากขึ้น เนื่องจาก ช่วยเพิ่มความสว่างจากแสงธรรมชาติ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และเสริมดีไซน์ที่ทันสมัย ซึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมคงไม่พ้น “แผ่นโพลีคาร์บอเนต” โดยมีคุณสมบัติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความทนทาน น้ำหนักเบา และสามารถป้องกันรังสี UV ได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานทั้งในบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน และพื้นที่ต่อเติมต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ก่อสร้างทุกชนิดล้วนมีอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับหลังคาโพลีคาร์บอเนต ที่เมื่อถึงเวลาจะต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อรักษาความปลอดภัยของอาคาร ซึ่งในบางกรณีแผ่นหลังคาที่ใกล้หมดอายุ อาจส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้เจ้าของอาคารได้สังเกต
ในบทความนี้ D-Lite ขอแชร์จุดสังเกตสำคัญที่บ่งบอกว่า แผ่นโพลีคาร์บอเนตกำลังหมดอายุการใช้งาน พร้อมแนะนำหลังคาโพลีคาร์บอเนตในการติดตั้งครั้งใหม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน
รวม 4 จุดสังเกตว่า แผ่นโพลีคาร์บอเนต กำลังหมดอายุการใช้งาน
หลังคาโพลีคาร์บอเนต ทำจากพลาสติกคุณภาพสูงที่มีความแข็งแรง และทนทานต่อสภาพอากาศแวดล้อม ทั้งนี้ เมื่อระยะเวลาผ่านไป วัสดุอาจเริ่มเสื่อมสภาพจากปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น แสงแดด ฝนตก และความชื้น ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งาน
ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เจ้าของบ้านหรืออาคารควรสังเกตสัญญาณต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของแผ่นหลังคา ดังนี้
- สีซีดจาง
จุดสังเกตแรกที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนคือ สีซีดจาง เนื่องจาก แผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตมีให้เลือกหลากหลายสี เช่น สีขาว สีน้ำตาล หรือสีเขียว ซึ่งสีเหล่านี้อาจค่อย ๆ ซีดจางไปตามกาลเวลา และบางครั้งอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
สาเหตุหลักมาจากการเสื่อมสภาพของสารป้องกันรังสี UV ที่เคลือบอยู่บนแผ่นหลังคา เมื่อสารดังกล่าวหมดประสิทธิภาพ วัสดุพลาสติกที่เป็นองค์ประกอบหลักของแผ่นหลังคาก็จะเริ่มเปลี่ยนสี
- รอยแตกร้าว
หากแผ่นมีรอยแตกร้าว หรือรอยขีดข่วนลึก อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความแข็งแรงของวัสดุของแผ่นหลังคาที่ลดลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแผ่นหลังคาเมื่อใช้งานในระยะยาว ในกรณีของหลังคาโพลีคาร์บอเนตนั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจกระทบต่อโครงสร้างอาคาร
- น้ำรั่วซึม
อีกหนึ่งจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดคือ ปัญหาน้ำรั่วซึม ซึ่งในบางครั้ง รอยแตกร้าว หรือรอยผุกร่อน บนแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตอาจยังไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน แต่เมื่อฝนตก น้ำอาจไหลซึมผ่านช่องว่างเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ภายในอาคาร
- เสียรูปทรง
เนื่องจาก หลังคาต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งความร้อนจากแสงแดด และความเย็นจากฝน หรืออุณหภูมิที่ลดลง จึงอาจส่งผลให้แผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตเกิดการเสียรูปทรง หรือบิดงอได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสังเกตเบื้องต้น ในการตรวจสอบแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนต กำลังหมดอายุการใช้งาน เพื่อช่วยให้เจ้าของบ้าน หรืออาคารสามารถเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือเปลี่ยนหลังคาได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อประเมินสภาพของแผ่นหลังคาอย่างถูกต้อง
หากต้องการเปลี่ยนแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนต ขอแนะนำ D-Lite ผู้จัดจำหน่ายแผ่นหลังคา และกันสาดวัสดุโพลีคาร์บอเนต ภายใต้ชื่อ “PolySky” เป็นกันสาดโปร่งแสงที่ให้ทั้งความเรียบหรู และดีไซน์โมเดิร์น ตอบโจทย์การใช้งาน และความสวยงามของอาคารได้อย่างลงตัว
อยากติดตั้งแผ่นโพลีคาร์บอเนตใหม่ ทำไมต้องใช้ PolySky
PolySky เป็นแผ่นโพลีคาร์บอเนตแบบตัน (Solid Polycarbonate) ทำให้มีคุณภาพใสเหมือนกระจก ทำให้เหมาะกับการต่อเติมบ้านหรืออาคาร เช่น กันสาด ระเบียง หรือทางเดินระหว่างอาคาร ช่วยให้สิ่งปลูกสร้างดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ PolySky ยังมีจุดเด่นอีกหลายประการ สำหรับผู้ที่กำลังเปลี่ยนหลังคาบ้านใหม่ควรรู้ ดังนี้
- สีสันให้เลือกหลากหลาย
เริ่มกันที่การดีไซน์ของแผ่นหลังคา โดย PolySky มีสีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาล (Bronze), สีขาว (Opal White) และสีเขียว (Ever Green) ซึ่งแต่ละสีมีคุณสมบัติคล้ายกัน แต่แตกต่างกันที่ปริมาณแสงส่องผ่าน เช่น
- สีน้ำตาล (Bronze): 10 % ปริมาณแสงส่องผ่าน
- สีขาว (Opal White): 51 % ปริมาณแสงส่องผ่าน
- สีเขียว (Ever Green): 79 % ของปริมาณแสงส่องผ่าน
- กระจายแสงได้ทั่วถึง
อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของ PolySky คือ การกระจายแสงได้ทั่วถึงพื้นที่ใต้หลังคาอย่างสม่ำเสมอ แม้เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวไปตามท้องฟ้าตลอดวัน ทำให้พื้นที่ภายในอาคาร หรือบ้านได้รับแสงธรรมชาติอย่างเหมาะสม
- ป้องกันรังสี UV
การใช้งานแผ่นหลังคาแบบโปร่งแสง คุณสมบัติที่สำคัญคือ “การป้องกันรังสี UV” ที่มากับแสงแดด เนื่องจาก รังสี UV เป็นอันตรายต่อทั้งสุขภาพของมนุษย์ และการเสื่อมสภาพสิ่งของใต้หลังคา โดยแผ่นกันสาดโพลีคาร์บอเนต PolySky มาพร้อมกับแผ่นเคลือบป้องกันรังสี UV ทั้งสองด้าน ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันรังสี UV ไม่ให้เข้าสู่ภายในหลังคา แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแผ่นหลังคาให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย
- คราบสกปรกไม่สะสม
หลายคนอาจกังวลว่าแผ่นกันสาดโพลีคาร์บอเนต ซึ่งเป็นแผ่นหลังคาใส เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจเกิดคราบสะสม และทำให้บ้านดูไม่สะอาด แต่ด้วยการออกแบบพิเศษของแผ่นหลังคา PolySky ทำให้ไม่เกิดคราบสกปรกสะสม และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้น้ำสะอาดฉีดล้างก็เพียงพอ ช่วยให้บ้านของคุณดูสะอาดอยู่เสมอ
- ผลิตภัณฑ์ไม่ลามไฟ
ปัจจุบัน วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติทนไฟมากขึ้น ซึ่ง PolySky ก็ได้ผ่านการทดสอบผลิตภัณฑ์ไม่ลามไฟตามมาตรฐานสากล UL 94 Class V-0 ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัย และความทนทานของวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้าง
- อุปกรณ์เสริมฟรี
การติดตั้งหลังคาแต่ละวัสดุ ก็มีขั้นตอนและเทคนิคในการติดตั้งที่แตกต่างกัน สำหรับ PolySky จะใช้ระบบติดตั้ง Standing Seam System เป็นนวัตกรรมการออกแบบที่ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมระหว่างรอยต่อแผ่น ทั้งนี้ ทาง D-Lite ได้แถมฟรีอุปกรณ์ติดตั้งในชุด เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาแผ่นโพลีคาร์บอเนต เพื่อแทนหลังคาเก่าของบ้าน อย่าลืมเลือก D-Lite ที่ออกแบบแผ่นหลังคา PolySky มาเพื่อใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ อีกทั้งยังรับประกันการใช้งานนานถึง 10 ปี สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อสินค้า ติดต่อได้ที่ Line: @kansaddlite หรือโทร 085-155-6532, 02-312-4949