แม้ว่าฤดูฝนจะสร้างความเย็นสบาย ให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้าน เพราะไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ เหมือนกับในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฤดูฝนได้นำพาพายุ และลมแรงมาด้วย ทำให้สภาพแวดล้อมรอบบ้าน อาจเกิดปัญหาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น สีทาบ้านหลุดลอก ประตูหน้าต่างฝืด หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเสียหาย
ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่เข้ามาช่วยดูแล และป้องกันไม่ให้บ้านของคุณเสียหาย จากพายุในช่วงฤดูฝน คงจะหนีไม่พ้น กันสาดโปร่งแสง วัสดุที่เข้ามาช่วยปกป้องบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และผู้อยู่อาศัยจากรังสี UV แสงแดด ลมฝน และมลภาวะต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ในบทความนี้ D-Lite จะมาแนะนำ 5 จุดติดตั้งหลังคาโปร่งแสง พร้อมกับอธิบายให้เห็นว่า หากไม่ติดตั้งกันสาด บ้านในฝันของคุณจะต้องเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูพร้อมกันได้เลย
มัดรวม ปัญหาที่พบในช่วงฤดูฝน รู้ไว้ก่อนเจอพายุฝน
เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่โบกมือลาฤดูร้อน และพร้อมเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว สิ่งที่ทุกบ้านจะต้องเจอ คือ ปัญหาเกี่ยวกับน้ำฝน และลมแรง ทำให้เจ้าของบ้านต้องจ้างช่างมาซ่อมแซมวัสดุ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหาย ส่งผลให้ค่าบำรุงรักษาบ้านสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น จะดีกว่าไหมหากเจ้าของบ้าน หันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างบ้าน ด้วยการติดตั้งกันสาดแบบโปร่งแสง เพื่อป้องกันไม่ให้บ้านได้รับความเสียหายจากพายุฝน โดย D-Lite ได้รวบรวมปัญหาที่เจ้าของบ้านต้องเผชิญ หากไม่ติดตั้งกันสาดมาไว้ให้แล้ว ดังนี้
- ปัญหาตะไคร่น้ำบนพื้นคอนกรีต
ในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก มักเกิดปัญหาผนังและพื้นรั่วซึมได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณผนัง และพื้นนอกบ้าน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหาอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น พื้นหรือผนังเกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้เกิดเชื้อรา หรือตะไคร่ขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ รวมถึงสีทาบ้านลอก และโครงสร้างบ้านได้รับความเสียหาย จากการที่เหล็กเป็นสนิม
ดังนั้น หากยังไม่มีการติดตั้งกันสาด บริเวณข้างบ้าน หรือมุมต่าง ๆ ที่ถูกฝนสาดเข้ามาโดยตรง เจ้าของบ้านควรรีบทำความสะอาด ด้วยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา รวมถึงใช้น้ำยาที่เหมาะกับพื้นผิว มาทำความสะอาดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ผนังบ้านเสียหายตามมา จากการใช้น้ำยาผิดประเภท
- ประตูหน้าต่างฝืด
หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อย ในช่วงฤดูฝน ได้แก่ ประตูหน้าต่างฝืด เนื่องจาก ความชื้นจากน้ำฝน ทำให้บริเวณบานพับที่เป็นเหล็ก เกิดการขึ้นสนิม หรือเริ่มฝืดจนส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แต่ในกรณีที่ใช้ประตูหรือหน้าต่างไม้ อาจทำให้การเปิดและปิดยากขึ้น เพราะไม้เกิดการขยายตัว จากความชื้นสะสม หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าไม้บวมนั่นเอง
- เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเสียหาย
เมื่อฝนสาดเข้าบ้าน ไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไข้หวัด หรือโรคต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย เพราะเฟอร์นิเจอร์บางประเภท อาจเกิดเชื้อรา เกิดการขยายตัว ขึ้นสนิม หรือสะสมฝุ่นได้ง่าย
ดังนั้น หากเจ้าของบ้านเริ่มดำเนินการต่อเติมกันสาด ในบริเวณที่ฝนสาดบ่อย ๆ เพียงเท่านี้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านก็จะปลอดภัยจากฝุ่นละออง และลมฝนอย่างแน่นอน
- ไฟฟ้าลัดวงจร
ในกรณีที่ไม่ได้มีการติดตั้งกันสาด อาจต้องเผชิญกับปัญหาฝนสาดเข้าบ้าน ซึ่งปลั๊กไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเสียหาย จากน้ำฝนหรือความชื้นสะสม ทำให้เกิดการลัดวงจร หรือประกายไฟ ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ หรือไฟช็อตสมาชิกในบ้านได้ง่าย
ทั้งนี้ หากใครกำลังมองหากันสาดโปร่งแสง ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องดีไซน์ และประโยชน์การใช้งานในบริเวณต่าง ๆ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และพายุฝน ในช่วงฤดูฝนได้เต็มประสิทธิภาพ ขอแนะนำ D-Lite ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลังคา จากบริษัทแอมเพิลไลท์ จาก BVQI และมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 612-2549
5 จุดติดตั้งกันสาดโปร่งแสง ป้องกันฝนสาดเข้าบ้านได้ทุกมุม
เมื่อได้รู้กันไปแล้วว่า หากไม่ติดตั้งกันสาด บ้านของคุณต้องเผชิญกับปัญหาอะไรบ้างในช่วงฤดูฝน เชื่อว่าหลายคนคงอยากต่อเติมบ้านกันมากขึ้น เพราะกันสาดมีส่วนช่วยในการป้องกันแสงแดด รังสี UV ละอองฝุ่น และมลภาวะต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น เพื่อดูแลบ้านให้ดูสวยงาม และดูไม่ทรุดโทรม รวมถึงปลอดภัยจากพายุฝนยิ่งขึ้น D-Lite จะมาแนะนำ 5 จุดที่ควรติดตั้งกันสาดโปร่งแสง โดยจุดติดตั้งที่แนะนำ มีดังต่อไปนี้
- โรงจอดรถ
หนึ่งในตำแหน่งยอดฮิต ที่เจ้าของบ้านส่วนใหญ่นิยมติดตั้งกันสาด ได้แก่ โรงจอดรถ เนื่องจาก กันสาดมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไม่ให้รถยนต์โดนแสงแดด ทั้งยังช่วยป้องกันรถยนต์ จากฝุ่นละออง หรือเศษกิ่งไม้ ที่อาจเข้ามาทำลายรถ ในช่วงเวลาที่เกิดฝนตกหนัก
ทั้งนี้ ไม่ควรให้พื้นที่โรงจอดรถอยู่ใกล้กับท่อระบายน้ำ เพราะเป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งเชื้อโรค และสัตว์ร้ายในฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็น หนูที่ขึ้นมากัดสายไฟใต้ห้องเครื่องรถ หรืองูที่เข้ามาอยู่ใต้รถ เป็นต้น
- หน้าประตูทางเข้าบ้าน
ประตูทางเข้าบ้าน เป็นอีกตำแหน่งที่ทุกบ้านนิยมติดตั้งกันสาด เพราะเป็นโซนที่ฝน และฝุ่นละอองเข้ามาในตัวบ้านได้โดยตรง ดังนั้น การติดตั้งกันสาดบริเวณหน้าประตูบ้าน จะช่วยยืดอายุข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ แผ่นหลังคาโปร่งแสง ยังช่วยปกป้องวัสดุต่อเติมบ้าน หรือได้รับความเสียหายจากละอองฝน เช่น ประตู มุ้งลวด ผ้าม่าน และหน้าต่าง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ทั้งยังช่วยป้องกันพื้นที่ภายในบ้าน จากความชื้นสะสมอีกด้วย
- บริเวณข้างบ้าน
บริเวณพื้นที่ข้างบ้าน หรือผนัง มักเป็นส่วนที่มีการติดตั้งปลั๊กไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย ดังนั้น การติดตั้งกันสาดโปร่งแสง จะเข้ามาป้องกันไม่ให้แสงแดด และละอองฝนสาดเข้ามา จนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่ทำกิจกรรมให้กับคนในครอบครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มุมปลูกต้นไม้ มุมอ่านหนังสือ และพื้นที่จัดสวนเล็ก ๆ สำหรับต้นไม้ที่ไม่ชอบแสงแดดจัด เป็นต้น
- พื้นที่หลังบ้าน
สำหรับพื้นที่หลังบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรต่อเติมพื้นที่ ด้วยการติดตั้งกันสาดแบบโปร่งแสง เพื่อเพิ่มพื้นที่ทำครัวไทย หรือพื้นที่ซักล้าง โดยไม่ต้องกังวลว่าฝนจะตกลงมาใส่เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไม่
นอกจากนี้ การติดตั้งกันสาดที่มีความโปร่งแสงเหมาะกับการตากผ้า ในช่วงเวลาที่ฝนตกหนักอีกด้วย เพราะกันสาดประเภทนี้ ยังมีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องเข้ามาเล็กน้อย ทำให้เจ้าของบ้านไม่ต้องคอยวิ่งไปเก็บผ้า เมื่อเกิดฝนตกโดยไม่ทันตั้งตัว
- ระเบียงบ้าน
แม้ว่าคนส่วนใหญ่ อาจไม่ค่อยออกไปใช้ชีวิตที่ระเบียงบ้าน แต่การติดตั้งกันสาดบริเวณระเบียง จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมถึงดูแลสุขภาพของคนในบ้าน ปลอดภัยจากละอองฝน ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่ทำกิจกรรมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร หรือโซนจัดปาร์ตี้ เป็นต้น
ก็จบกันไปแล้วกับ 5 จุดติดตั้งกันสาดแบบโปร่งแสงให้กับบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญ เกิดความเสียหายจากพายุฤดูฝน ฝุ่นละออง รวมถึงเศษขยะที่พัดมากับฝน จนต้องมาคอยซ่อมบำรุงรักษาจุดต่าง ๆ
สำหรับใครที่กำลังมาหากันสาดโปร่งแสงคุณภาพดี และได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน และรังสี UV ได้มากกว่า 99% ทั้งยังป้องกันมลภาวะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมนึกถึง D-Lite เราเป็นผู้ผลิตหลังคา และแผ่นไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง หากสนใจติดต่อเราได้ที่ Line: @kansaddlite หรือโทร 085-155-6532, 02-312-4949